เมนู

พรรณนา วงศ์พระสุมนพุทธเจ้าที่ 4



เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น เสด็จดับขันธปรินิพพานทำหมื่น
โลกธาตุให้มืดลงพร้อมกัน ด้วยเหตุอย่างเดียวอย่างนี้แล้ว ต่อมาจากสมัยของ
พระองค์ เมื่อมนุษย์ทั้งหลายซึ่งมีอายุเก้าหมื่นปี แล้วก็ลดลงโดยลำดับจน
เกิดมามีอายุเพียงสิบปี แล้วเพิ่มขึ้นอีก จนมีอายุถึงอสงไขยปี แล้วลดลงอีก
จนมีอายุเก้าหมื่นปี พระโพธิสัตว์พระนามว่า สุมนะ ทรงบำเพ็ญบารมี บังเกิด
ในสวรรค์ชั้นดุสิต จุติจากนั้น ทรงถือปฏิสนธิในพระครรภ์ของพระนางสิริมา
เทวี ในราชสกุลของพระเจ้าสุทัตตะ ณ เมขลนคร เรื่องปาฏิหาริย์มีนัยที่เคย
กล่าวมาแล้วทั้งนั้น.
พระโพธิสัตว์นั้น เจริญวัยมาโดยลำดับ อันเหล่าสตรีฝ่ายนาฏกะ
[ฟ้อน, ขับ, บรรเลง] จำนวนหกหมื่นสามแสนนางบำเรออยู่ ณ ปราสาท 3
หลัง ชื่อ1 สิริวัฒนะ โลมวัฒนะและอิทธิวัฒนะ อันเหล่ายุวนารีผู้กล้าหาญ
ปรนนิบัติอยู่ เสวยสุขตามวิสัย เสมือนสุขทิพย์ ประหนึ่งเทพกุมารี ทรงให้
กำเนิดพระโอรสที่ไม่มีผู้เปรียบ พระนามว่า อนูปมะ แก่พระนางวฏังสิกาเทวี
ทรงเห็นนิมิต 4 เสด็จออกอภิเนษกรมณ์ ด้วยยานคือช้าง ทรงผนวชแล้ว
ส่วนชนสามสิบโกฏิ ก็บวชตามเสด็จพระโพธิสัตว์ ซึ่งทรงผนวชอยู่.
พระองค์ อันชนสามสิบโกฏินั้นแวดล้อมแล้ว ทรงบำเพ็ญเพียร 10
เดือน ณ วันเพ็ญเดือนวิสาขะ เสวยข้าวมธุปายาส อันมีโอชะทิพย์ที่เทวดา
ใส่ ที่ นางอนุปมา ธิดาของ อโนมเศรษฐี ใน อโนมนิคม ถวายแล้ว
ทรงยับยั้งพักกลางวัน ณ สาละวัน ทรงรับหญ้า 8 กำ ที่ อนุปมาชีวก ถวาย

1. ตามบาลีว่า ชื่อ จันทะ สุจันทะ และวฏังสะ

เสด็จเข้าไปยังโพธิพฤกษ์ชื่อ นาคะ ต้นกากะทิง ทรงทำประทักษิณต้นนาคะ
โพธิ์นั้น ทรงเอาหญ้า 8 กำปูเป็นสันถัดหญ้ากว้าง 30 ศอก ประทับนั่งขัดสมาธิ
เหนือสันถัตหญ้านั้น. ต่อนั้น ก็ทรงกำจัดกองกำลังมาร แทงตลอดพระสัพ-
พัญญุตญาณ ทรงเปล่งอุทานว่า อเนกชาติสํสารํ ฯ เป ฯ ตณฺหานํ
ขยมชฺฌคา
ดังนี้ ด้วยเหตุนั้น จึงตรัสว่า
ถัดสมัยของพระมงคลพุทธเจ้า พระพุทธเจ้า
พระนามว่า สุมนะ ทรงเป็นผู้นำโลก ไม่มีผู้เสมอด้วย
ธรรมทั้งปวง สูงสุดแห่งสัตว์ทั้งปวง.


แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า มงฺคลสฺส อปเรน ความว่า ต่อมาภาย
หลังสมัยของพระผู้มีพระภาคมงคลพุทธเจ้า. บทว่า สพฺพธมฺเมหิ อสโม
ได้แก่ ไม่มีผู้เสมอ ไม่มีผู้เสมือน ด้วยธรรมคือศีล สมาธิ ปัญญา แม้ทุกอย่าง.
ได้ยินว่า พระผู้มีพระภาคสุมนพุทธเจ้า ทรงยับยั้งอยู่ 7 สัปดาห์
ณ ที่ใกล้โพธิพฤกษ์ ทรงรับคำทูลอาราธนาของพรหมเพื่อแสดงธรรม ทรง
ใคร่ครวญว่า จะแสดงธรรมแก่ใครก่อนหนอ ทรงเห็นว่า ชนที่บวชกับพระ-
องค์สามสิบโกฏิ พระกนิษฐภาดาต่างพระมารดาของพระองค์ พระนามว่า
สรณกุมาร และบุตรปุโรหิต ชื่อว่า ภาวิตัตตมาณพ เป็นผู้ถึงพร้อมด้วย
อุปนิสัย ทรงพระดำริว่า จะทรงแสดงธรรมแก่ชนเหล่านั้นก่อน จึงเสด็จ
โดยทางนภากาศ ลงที่พระราชอุทยาน เมขละ ทรงส่งพนักงานเฝ้าพระราช
อุทยานไปเรียก สรณกุมาร พระกนิษฐภาดาของพระองค์และภาวิตัตตมาณพ
บุตรปุโรหิต แล้วทรงยังสัตว์แสนโกฏิอย่างนี้ คือ บริวารของคนเหล่านั้นสาม